องค์การบริหารส่วนตำบลขุนศรี

๒.๑ ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพทั่วไป

ประวัติความเป็นมา

อาณาเขตตำบลขุนศรีในปัจจุบัน อดีตนั้นเคยเป็นส่วนหนึ่งของป่ากระทุ่มมืด ในปี พ.ศ. ๒๔๒๑-๒๔๒๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองทวีวัฒนา (คลองเจ้า) และคลองนราภิรมย์ทางด้านทิศใต้ของป่ากระทุ่มมืดไปบรรจบแม่น้ำท่าจีน เพื่อส่งน้ำเข้ามาในบริเวณพื้นที่อำเภอไทรน้อยในปัจจุบัน ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๓๓-๒๔๔๒ ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาติให้พระราชาภิมณฑ์ (เพ็ง) ขุดคลองต่อจากคลองบางบัวทองไปทางทิศตะวันตก ไปสิ้นสุดใกล้รางกระทุ่ม ตรงบริเวณวัดยอดพระพิมล ซึ่งเป็นพื้นที่ของตำบลขุนศรีในปัจจุบัน โดยใช้ชื่อคลองว่า “คลองพระราชาภิมณฑ์)” (ปัจจุบัน เรียกว่า คลองพระราชาพิมล หรือคลองพระพิมล) ปี พ.ศ. ๒๔๓๕ พระยาบรรฤาสิงหนาท (เจ๊ก) ได้รับพระบรมราชานุญาติให้ขุดคลองพระยาบรรฤา (ปัจจุบันเขียนว่า คลองพระยาบันลือ) จากแม่น้ำท่าจีน (แม่น้ำสุพรรณบุรี) อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี

ในราวปี พ.ศ. ๒๔๔๕ ขุนศรี (ไม่ปรากฏราชทินนามและชื่อบุคคลแน่ชัด) เป็นกำนันตำบลขุนศรี อำเภอบางปลา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ได้ขุดลำรางเล็ก ๆ แยกจากคลองพระราชาพิมลฝั่งทิศเหนือถึงวัดคลองขุนศรี เพื่อให้ชาวบ้านในบริเวณพื้นที่ตำบลขุนศรีในปัจจุบันได้ใช้น้ำทำนา (ขุนศรีผู้นี้เป็นกำนันตำบลขุนศรี เมื่อยังอยู่ในเขตอำเภอบางปลา จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นคนละคนกับขุนศรีราษฎร์นิยม) (พร มัณยานนท์) กำนันตำบลไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี

ต่อมาในปีเดียวกันขุนศรีราษฎร์นิยม (พร มัณยานนท์) กำนันตำบลไทรใหญ่ ได้ขุดลำรางที่ขุนศรี กำนันตำบลขุนศรีขุดไว้แต่เดิมไปบรรจบกับคลองพระยาบันลือ อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อกำนันพร มัณยานนท์ ได้รับแต่งตั้งเป็นขุนศรีราษฎร์นิยม กำนันตำบลไทรใหญ่ คลองที่ขุดนี้ จึงได้เรียกชื่อว่า คลองขุนศรี ตามบรรดาศักดิ์ เพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับขุนศรีทั้งสองคนที่ได้ขุดคลองนี้ขึ้น

ในปี พ.ศ. ๒๔๔๕ หม่อมแช่ม กฤตากร ณ อยุธยา ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศวรฤทธิ์ ได้บริจาคทรัพย์ให้ขุดลอกคลองจากคลองขุนศรีฝั่งตะวันตก ในเขตพื้นที่ตำบลขุนศรีไปบรรจบคลองลำลาดสวาย ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ได้ใช้ชื่อว่า คลองหม่อมแช่ม

ดังนั้นในช่วง พ.ศ. ๒๔๓๓-๒๔๕๐ ป่ากระทุ่มมืดจึงมีคลองสายหลักส่งน้ำเพียงพอ ทำให้ราษฎรเข้ามาขอจับจองที่ดินสองฝั่งคลองของคลองต่าง ๆ จึงเกิดเป็นชุมชนตามลำนำขึ้น และยังมีการขุดคลองเพิ่มขึ้นเพื่อเชื่อมคลองพระราชาพิมลและคลองพระยาบันลือ ในเขตอำเภอบางบัวทอง อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม

พื้นที่ระหว่างคลองนราภิรมย์ฝั่งทิศเหนือ ต่อเนื่องจากมาถึงคลองพระราชพิมลและคลองหม่อมแช่ม ได้มีผู้คนมาจับจองที่ป่ากระทุ่มมืดและเกิดเป็นชุมชน ตามริมคลองต่าง ๆ ดังกล่าวนี้ มากขึ้นเช่นกัน เมื่อมีการจัดตั้งอำเภอบางปลา ชุมชนที่อยู่ในบริเวณปากคลองทวีวัฒนา (คลองเจ้า) ชุมชนริมคลองพระราชาพิมล จากปากคลองเจ้าไปถึงปลายคลองพระราชาพิมล ซึ่งเป็นที่ตั้งวัดยอดพระพิมล ในปัจจุบัน ชุมชนที่อยู่ฝั่งใต้ มีบรรดาศักดิ์เป็นขุนศรี ตำบลที่ตั้งขึ้นจึงได้ใช้ชื่อตามบรรดาศักดิ์ของกำนันคนแรกนี้เป็นชื่อของตำบล จึงมีชื่อว่า ตำบลขุนศรี อำเภอบางปลา จังหวัดนครปฐม เมื่ออำเภอบางปลาได้เปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอบางเลน ตำบลขุนศรีจึงได้เขตปกครองของอำเภอบางเลนจังหวัดนครปฐมในเวลาต่อมา

ในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ กำนันเชื้อ วิสุทธิเสน ขณะดำรงตำแหน่งกำนันตำบลขุนศรี พร้อมราษฎรตำบลขุนศรีอยู่ใกล้ที่ว่าการอำเภอไทรน้อย ถ้าตำบลขุนศรีได้มาอยู่ในเขตปกครองของอำเภอไทรน้อย จะอำนวยความสะดวกแก่ราษฎรตำบลขุนศรี ขณะนั้นราษฎรในตำบลขุนศรี ไปติดต่อราชการที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ต้องเดินทางเป็นระยะทางไกล และไม่สะดวก กำนันเชื้อ วิสุทธิเสน กำนันตำบลขุนศรี จึงขอให้ทางราชการจังหวัดนนทบุรี โอนตำบลขุนศรีจากอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม มาอยู่ในเขตปกครองของอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ดังนั้น ตำบลขุนศรีจึงได้อยู่ในเขตปกครองของอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรีตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.๒๕๐๒ จนถึงปัจจุบัน

ลักษณะที่ตั้งและภูมิประเทศ

องค์การบริหารส่วนตำบลขุนศรี ตั้งอยู่ทิศตะวันตกของอำเภอไทรน้อย ห่างจากที่ตั้งที่ว่าการ อำเภอไทรน้อยประมาณ ๕ กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ ๒๒ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๑๓,๗๕๐ ไร่

อาณาเขต

ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี

ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลนราภิรมย์ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม

ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลคลองขวาง,ทวีวัฒนา,ราษฎร์นิยมและเทศบาลตำบลไทรน้อย

ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม

ลักษณะภูมิประเทศ

สภาพพื้นที่เป็นดินเหนียว พื้นที่ส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ประมาณ ๑๐,๘๐๑ ไร่ หรือประมาณร้อยละ ๗๗.๒๙ ของพื้นที่ทั้งหมดของตำบล ส่วนที่แหลือเป็นที่พักอาศัยและโรงงานอุตสาหกรรม

ลักษณะการเมืองการปกครอง

ตำบลขุนศรี มีจำนวนหมู่บ้าน ๘ หมู่บ้าน ซึ่งแต่ละหมู่บ้านประกอบด้วยชุมชนดั้งเดิม บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนตำบลขุนศรี ซึ่งมีนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเป็นผู้บริหาร และสภาองค์การบริหารส่วนตำบล โดยมีสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลมาจากการเลือกตั้งหมู่บ้านละ ๒ คน รวมทั้งสิ้น ๑๖ คน ทำหน้าที่ในการออกระเบียบ และข้อบัญญัติต่าง ๆ ของตำบล

จำนวนหมู่บ้านดั้งเดิม

๑. บ้านคลองพระพิมล นายสุรสีห์ ศรีอินทร์สุทธิ์ กำนัน

๒. บ้านคลองโต๊ะนุ้ย นางสาวศิรินทร์ทิพย์ บุญเพ็ชร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๒

๓. บ้านคลองขุนศรี นายมานะ มัณยานนท์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๓

๔. บ้านวัดสโมสร นายสมยศ สาดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๔

๕. บ้านคลองพระพิมล นายสมเกียรติ ศรีสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๕

๖. บ้านคลองพระพิมลราชา นายชาญวิทย์ นรจีน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๖

๗. บ้านปากคลองเจ้า นายพิชิต ศรศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๗

๘. บ้านคลองสิบศอก นายบุญฤทธิ์ ผลสะอาด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๘