ประวัติอำเภอหนองฉาง |
- อำเภอหนองฉาง เคยเป็นเมืองในยุคทวาราวดีจะมีชื่อเดิมอย่างใดไม่ปรากฏ แต่สันนิฐานว่าคงเป็นเพียงเมืองหนึ่งที่มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ พอประมาณ ปัจจุบันยังมีร่องรอยของสิ่งปลูกสร้างที่ปรักหักพังให้เป็นหลงเหลืออยู่บ้างที่เมืองการุ้งในเขตของอำเภอบ้านไร่ และเมืองโบราณบึงคอกข้าง อยู่ในเขตอำเภอสว่างอารมณ์ และเมื่ออาราจักรของทวาราวดีเสื่อมโทรมไปเมืองหนองฉางก็เสื่อมโทรมและร้างไปในที่สุด |
- ต่อมาในสมัยต้นกรุงสุโขทัย ท่านท้าวมหาพรหมได้มาสร้างเมืองอุทัยที่ตำบลอุทัยเก่า อำเภอหนองฉางอีกครั้ง เพราะเห็นว่าเป็นชัยภูมิที่ดีและเหมาะสม เนื่องจากมีน้ำอุดมสมบูรณ์และพืชพรรณธัญญาหารเจริญงอกงามดีพอสร้างเมืองเสร็จแล้ว ราษฎรที่อยู่บริเวณใกล้เคียงก็อพยพกันเข้ามาอยู่กันอย่าง หนาแน่น ครั้นถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา พะตะเบิก ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองคนแรกจึงมีการจัดทำเนียบหัวเมืองขึ้น ดังนั้น เมืองอุทัยได้จัดอยู่ให้เป็น หัวเมืองด่านชั้นนอก โดยมีพระอินทรเดชเป็นนายด่านหนองสรวง (ปัจจุบันตำบลนี้อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอหนองฉาง ประมาณ 2 กิโลเมตร) และมี พระพลสงคราม เป็นนายด่านแม่กลอง (ปัจจุบันอยู่ในท้องที่อำเภอบ้านไร่) |
- ครั้นต่อมาเมื่อกิจการค้าขายทางน้ำเจริญขึ้นตัวเมืองอุทัยธานี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอหนองฉางในปัจจุบัน และห่างจากแม่น้ำมาก การประกอบ อาชีพไม่ดีเท่าที่ึควร จึงเริ่มเสียความสำคัญไปราษฏรส่วนมากจึงพากันอพยพไปตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนที่บ้านสะแกกรัง แขวงเมืองมโนรมณ์ จังหวัดชัยนาท ราษฏำส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในทางค้าขายกับพ่อค้าชาวจีนจนกลายเป็นชุมชนหนาแน่น และคับคั่งไปด้วยผู้คนมากมายถึงแม้จะอยู่ในเขตของจังหวัด ชัยนาท แต่ราษฎรส่วนใหญ่ก็ถือว่าตนเป็น "คนอุทัย" ซึ่งในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ มีบุคคลสำคัญของตระกูลหนึ่งนำโดยหมื่น มหาสนิท (ทองคำ) ชื่อนายทองดี มีอายุพอสมควร ท่านบิดาจึงได้ส่งเข้าไปรับราชการที่กรุงศรีอยุธยาในแผ่นดินสมเด็จฯ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ และ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง "พระพินิจอักษร" เจ้ากรมเสมียนตราท่านผู้นี้คือ "สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก" ซึ่งเป็นต้นราชวงศ์จักรี |