เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2550 มีการประชุมคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ครั้งที่1/2550 "ประธาน กขร. คนใหม่เน้นใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ เป็นกลไกสำคัญสร้างความโปร่งใสในระบบบริหารราชการแผ่นดิน".....  รองศาสตราจารย์ ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี ให้ดูแลเรื่องความโปร่งใสในหน่วยงานของรัฐ โดยใช้พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการพ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นเครื่องมือและกลไกสำคัญเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในระบบบริหารราชการแผ่นดินได้กล่าวย้ำถึงความสำคัญของ พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ ว่า พระราชบัญญัติฯ ฉบับนี้มีเจตนารมณ์ที่ต้องการให้เกิดความโปร่งใสในระบบราชการ โดยมีคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (กขร.) เป็นองค์กรทำหน้าที่ดูแล แนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายข้อมูลข่าวสารฯ ของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร (กวฉ.) เป็นองค์กรในการเยียวยากรณีพิพาทเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้ขอและหน่วยงานของรัฐผู้ให้ข้อมูล และมีสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (สขร.) เป็นองค์กร ทำหน้าที่ธุรการและวิชาการให้แก่ กขร. รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานของรัฐและให้คำปรึกษาแก่เอกชนในการปฏิบัติตามกฎหมาย ในการดำเนินการสร้างความโปร่งใสตาม พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ เพื่อให้มีผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น จึงจะต้องให้มีการปฏิบัติ ดังนี้ ๑.การเน้นย้ำให้หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีข้อมูลข่าวสารของราชการต่างๆ ตามมาตรา ๙ ไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้อย่างเคร่งครัด เช่น -ผลการพิจารณาที่มีผลต่อเอกชนโดยตรง -แผนงาน โครงการและงบประมาณ -สัญญาสำคัญของรัฐ เช่น สัญญาสัมปทาน สัญญาผูกขาดตัดตอน สัญญาร่วมทุนกับเอกชนในการจัดทำบริการสาธารณะ เป็นต้น นอกจากนี้ จะได้มีประกาศคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารฯ ให้ข้อมูลข่าวสารบางประเภทเป็นข้อมูลที่ต้องจัดไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้ตามมาตรา ๙ (๘) เพิ่มเติมด้วย ๒.การกระตุ้นและเร่งรัดให้หน่วยงานของรัฐมีการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อมูลข่าวสารฯ อย่างเอาจริงเอาจังมากยิ่งขึ้น โดยเน้นย้ำให้มีการมอบหมายผู้บริหารระดับรองปลัดกระทรวง รองอธิบดี หรือรองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้รับผิดชอบการปฏิบัติ ๓.การตรวจติดตามผลการปฏิบัติตามกฎหมายข้อมูลข่าวสารฯ ของหน่วยงานของรัฐ โดยให้จัดโครงการตรวจเยี่ยมเพื่อให้คำแนะนำการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการกำหนดจะออกตรวจเยี่ยมในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ ๔.การพัฒนาดัชนีชี้วัดความโปร่งใส (Transparency Indicator) และการกำหนดมาตรฐานความโปร่งใสหน่วยงานรัฐ การดำเนินการดังกล่าวในปีนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน ๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการพิจารณาจัดทำรายละเอียดการดำเนินการตาม โครงการในปี ๒๕๕๐ และจะได้สนับสนุนให้มีการดำเนินการในเรื่องนี้ต่อเนื่องไปในปี ๒๕๕๑–๒๕๕๓ รวมทั้งจะได้พัฒนาให้สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการเป็นองค์กรหลักในการติดตามประเมินความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐต่อไปด้วย เอกสารแนบ