ดินแดนในเขตปกครองของจังหวัดสุราษฎร์ธานี นักประวัติศาสตร์และโบราณคดีได้สำรวจ ขุดค้น ศึกษาจากโบราณสถานและโบราณวัตถุ ซากปรักหักพังต่างๆ ชื่อบ้านนามเมืองได้พบเมืองเก่าแก่หลายเมือง เมืองเหล่านี้มีอายุก่อนสมัยสุโขทัย และมีอาณาเขตติดต่อกัน บางเมืองมีความเจริญรุ่งเรืองมาแล้วระยะหนึ่ง มีการย้ายที่ตั้งเมืองบ้าง เปลี่ยนชื่อเมืองบ้าง ยุบรวมกันบ้างอันเนื่องมาจากการปกครอง ภัยธรรมชาติ และภัยสงครามเมืองเหล่านี้ได้แก่ เมืองไชยา เมืองเวียงสระ เมืองคีรีรัฐและเมืองท่าทอง

                      เมืองท่าทองหรืออำเภอกาญจนดิษฐ์ ในปัจจุบัน ตั้งขึ้นเมื่อใดไม่มีหลักฐานบันทึกไว้แน่นอน แต่มีสถานที่ที่สอดคล้องกับตำนานและพงศาวดารอยู่หลายแห่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกให้เห็นว่า บริเวณเหล่านี้เคยเป็นชุมชนระดับเมืองมาตั้งแต่สมัยศรีวิชัยเป็นอย่างน้อยในระหว่างที่เมืองหลวงของอาณาจักรนี้ตั้งอยู่ที่ไชยา เรื่องกรุงศรีวิชัยนั้น นายธรรมทาสพานิช กล่าวในพนมทราวดีศรีวิชัยว่า จารึกกกรุงศรีวิชัยที่ทำขึ้นใน พ.ศ. 1318 พบที่ไชยากรุงศรีวิชัยก็ต้องตั้งที่ไชยาในราว พ.ศ. 1200-1350 หลังจากนั้นก็ย้ายจากไชยา ไปอยู่ที่ตามพรลิงค์นครศรีธรรมราช

                      บริเวณลุ่มน้ำท่าทอง ได้รับเอาศิลปวัฒนธรรมศรีวิชัย จากเมืองไชยาซึ่งอยู่ฝั่งอ่าว ตรงกันข้าม มาพัฒนาท้องถิ่นของตนโดยสร้างพุทธสถานสำคัญขึ้นเป็นแห่งแรก ที่ถ้ำวัดเขาพระนิ่มชาวลุ่มน้ำท่าทองได้สละกำลังกายกำลังทรัพย์พระพุทธรูป เป็นพระประธานเป็นพระนอนหุ้มด้วยทองคำตลอดทั้งองค์ จึงเรียกว่า พระทอง และเรียกเขานี้ว่าเขาพระทอง ถ้ำพระทอง ต่อมาได้ทำถนนจากพุทธสถานเขาเพระทอง ไปยังท่าน้ำชายฝั่งคลองเพื่อให้ผู้เดินทาง ทางเรือได้จอดเรือและได้เดินทางไปยังพุทธสถานได้สะดวกขึ้น จึงเรียกท่าน้ำตรงถนนนี้ว่าท่าเขาพระทองและเรียกบริเวณนี้ว่า บ้านท่าเขาพระทองต่อมาเรียกว่าบ้านท่าพระทองและเรียกสั้นลงอีกว่าบ้านท่าทองพุทธสถานเขาพระทองเป็นสิ่งจูงใจให้ชาวลุ่มน้ำท่าทอง และบริเวณใกล้เคียงเดินทางมาสักการบูชาพระทองอยู่เป็นประจำ ทำให้เจริญรุ่งเรืองมากประมาณ พ.ศ. 1340 กรุงศรีวิชัยจึงยกบ้านท่าทองให้เป็นเมืองปกครอง บริเวณลุ่มน้ำท่าทองและท้องที่ใกล้เคียง ขึ้นตรงต่อกรุงศรีวิชัยที่ไชยา ครั้น พ.ศ.1350 เมืองหลวงของศรีวิชัยย้ายไปนครศรีธรรมราช เมืองท่าทองก็ขึ้งตรงกับนครศรีธรรมราชตั้งแต่นั้นมา โบราณวัตถุอีกอย่างหนึ่งที่พบบริเวณลุ่มน้ำท่าทางคือ พระพิมพ์ดินดิบที่พบที่ถ้ำเขาหลีกที่ทุ่งเขน สิ่งเหล่านี้ล้วนชี้เห็นว่าบริเวณลุ่มน้ำท่าทอง เป็นชุมชนที่เจริญด้วยศิลปวัฒนธรรมระดับเมือง มาตั้งแต่ศรีวิชัยเมืองท่าทองตั้งที่เขาพระทองประมาณ 200 ปี