ประวัติความเป็นมาของการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสาร
เทศบาลตำบลบางละมุง
เทศบาลตำบลบางละมุง
ได้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสาร
ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร
พ.ศ. 2540 โดยใช้ชื่อว่า “ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการเทศบาลตำบลบางละมุง” โดยมีหน้าที่ให้บริการข้อมูลข่าวสารตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร
พ.ศ.2540
สถานที่ตั้งอยู่ที่ สำนักงานเทศบาลตำบลบางละมุง ถนนบางละมุง
12/2
ตำบลบางละมุง
อำเภอบางละมุง
จังหวัดชลบุรี
20150 โทรศัพท์/โทรสาร 0-3824-0881-4 เว็บไซต์ www.banglamung.go.th
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายข้อมูลข่าวสาร
พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
พ.ศ.2540
เป็นกฎหมายที่เกิดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หรือเจตนารมณ์เพื่อรับรอง “สิทธิได้รู้” (Right to Know )
ของประชาชนหรือสิทธิที่จะรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ
ที่เกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐ
เพื่อประชาชนจะสามารถแสดงความคิดเห็นและใช้สิทธิทางการเมืองได้โดยถูกต้องกับความเป็นจริง รวมทั้งมีส่วนร่วมในกระบวนการบริหารและการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ
อันจะเป็นการส่งเสริมให้มีรัฐบาลที่บริหารบ้านเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ
โปร่งใส เป็นไป
เพื่อประโยชน์ของประชาชนมากยิ่งขึ้น
จากวัตถุประสงค์หรือเจตนารมณ์ของกฎหมายดังกล่าว
จึงได้กำหนดเป็นมาตรการเพื่อให้หน่วยงานต่างๆ
ของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องมีการดำเนินการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการ
และได้บัญญัติในมาตรา
9 ให้หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีข้อมูลข่าวสารของราชการอย่างน้อยตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้
ประกอบกับได้มีประกาศคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
เรื่อง
หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการจัดให้มีข้อมูลข่าวสารของราชการไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดู
ณ
ที่ทำการของหน่วยงานของรัฐ
โดยเรียกสถานที่ที่จัดเก็บรวบรวมข้อมูลข่าวสารว่า “ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร”
ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร เป็นสถานที่ที่หน่วยงานของรัฐจัดรวบรวมข้อมูลข่าวสารไว้ให้ประชาชน เพื่อสามารถค้นหาข้อมูลข่าวสารของราชการเองได้
ในเบื้องต้นสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการพิจารณาเห็นว่า เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับหน่วยงานของรัฐทั้งในด้านบุคลากร
สถานที่และงบประมาณ
จึงให้ถือว่าหน่วยงานของรัฐที่ต้องจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารกำหนดให้เป็นเฉพาะหน่วยงานของรัฐที่เป็นนิติบุคคลเท่านั้น
ดังนั้น
หมายถึง หน่วยงานของรัฐที่เป็นราชการส่วนกลาง
คือ กรม
หน่วยงานเทียบเท่าราชการส่วนภูมิภาค
คือ จังหวัด
และราชการส่วนท้องถิ่น
คือ
องค์การบริหารส่วนจังหวัด
เทศบาล
องค์การบริหารส่วนตำบล
กรุงเทพมหานคร
และเมืองพัทยา
จึงมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารตามประกาศคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
วิธีการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
หน่วยงานของรัฐต้องส่งข้อมูลข่าวสารของราชการอย่างน้อยดังต่อไปนี้
ข้อมูลข่าวสารตามมาตรา
7
1. โครงการและการจัดองค์กรในการดำเนินงาน
2. สรุปอำนาจหน้าที่ที่สำคัญและวิธีการดำเนินงาน
3. สถานที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลข่าวสารหรือคำแนะนำในการติดต่อกับหน่วยงานของรัฐ
4. กฎ
มติคณะรัฐมนตรี
ข้อบังคับ
คำสั่งฯ เฉพาะที่จัดให้มีขึ้นโดยมีสภาพอย่างกฎ
เพื่อให้มีผลเป็นการทั่วไปต่อเอกชนที่เกี่ยวข้อง
5. ข้อมูลข่าวสารตามที่คณะกรรมการกำหนด
ข้อมูลข่าวสารตามมาตรา
9 เป็นประเภทของข้อมูลข่าวสารที่ต้องจัดไว้ให้ประชาชนตรวจดู
ได้แก่
1) ผลการพิจารณาหรือคำวินิจฉัยที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน รวมทั้งความเห็นแย้งและคำสั่งที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาวินิจฉัยดังกล่าว
2) นโยบาย หรือ
การตีความที่ไม่เข้าข่ายต้องลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา
3) แผนงาน
โครงการ
และงบประมาณรายจ่ายประจำปีของหน่วยงานต่างๆ
ของรัฐ
4) คู่มือหรือคำสั่งเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ซึ่งมีผลกระทบถึงสิทธิหน้าที่ของเอกชน
5) สิ่งพิมพ์ที่มีการอ้างอิงถึงตามมาตรา
7 วรรคสอง
6) สัญญาสัมปทาน
สัญญาที่มีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอนหรือสัญญาร่วมทุนกับเอกชนในการจัดทำบริการสาธารณะ
7) มติคณะรัฐมนตรี
หรือมติคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยกฎหมาย
หรือโดยมติคณะรัฐมนตรีทั้งนี้
ให้ระบุรายชื่อรายงานทางวิชาการ
รายงานข้อเท็จจริง
หรือข้อมูลข่าวสารที่นำมาใช้ในการพิจารณาไว้ด้วย
8) ข้อมูลข่าวสารอื่นตามที่คณะกรรมการกำหนด
ได้แก่
8.1
ประกาศประกวดราคา
ประกาศสอบราคาของหน่วยงานต่าง
จะต้องนำมารวมไว้ให้ตรวจอย่างน้อย
1 ปี
นับแต่วันลงนาม
8.2
ผลการพิจารณาจัดซื้อจัดจ้าง
ซึ่งหน่วยงานของรัฐทุกแห่งจะต้องจัดทำสรุปผลการพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างเป็นประจำทุกเดือน
แล้วนำมารวมไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้
โดยสรุปผลการจัดซื้อจัดจ้างนี้
จะต้องระบุรายละเอียดอย่างน้อย
คือ
จัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีใด
มีผู้เข้าร่วมจัดซื้อจัดจ้างจำนวนกี่ราย
เป็นใครบ้าง
ผู้ใดได้รับการคัดเลือก
ในวงเงินเท่าใด
และสรุปเหตุผลที่คัดเลือกผู้รับจ้างรายดังกล่าวด้วย
8.3 ข้อมูล/เอกสารเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
และสุขภาพ
ข้อมูลข่าวสารที่จัดให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้ตามวรรคหนึ่ง
ถ้ามีส่วนที่ต้องห้ามมิให้เปิดเผยตามมาตรา 14 หรือ มาตรา 15 อยู่ด้วย
ให้ลดหรือตัดทอนหรือทำโดยประการอื่นใดที่ไม่เป็นการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนนั้น
บุคคลไม่ว่าจะมีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ตาม
ย่อมมีสิทธิเข้าตรวจดู
ขอสำเนาหรือขอสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องของข้อมูลข่าวสารตามวรรคหนึ่งได้
ในกรณีที่สมควรหน่วยงานของรัฐโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการจะวางหลักเกณฑ์เรียกค่าธรรมเนียมในการนั้นก็ได้ ในการนี้ให้คำนึงถึงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยประกอบด้วย
ทั้งนี้
เว้นแต่จะมีกฎหมายเฉพาะบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
คนต่างด้าวจะมีสิทธิตามมาตรานี้เพียงใดให้เป็นไปตามที่กำหนดโดยกฎกระทรวง