ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2534 อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดตั้งสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด โดยให้ทดลองจัดตั้งขึ้นใน 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ชัยนาท ขอนแก่น และสงขลา ผลการปฏิบัติงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ต่อมาคณะรัฐมนตรีจึงมีมติ เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2537 เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดตั้งสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดขึ้น เป็นงานราชการส่วนภูมิภาค สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2538 และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับกฤษฏีกาเล่ม 112 ตอนที่ 6 ก ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2538 เพื่อที่จะเป็นตัวแทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำจังหวัด เป็นการถาวรเช่นเดียวกับกระทรวงหลักอื่น ๆ ในการประสานกับราชการส่วนภูมิภาค รวมทั้งราชการส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และส่วนราชการนอกสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้จัดตั้งให้ครบทุกจังหวัด ทั่วประเทศในปี 2540 สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดร้อยเอ็ด ได้จัดตั้งเมื่อปี 2538 ได้เช่นอาคารสำนักงานอยู่ที่อาคารเอกฐิน เลขที่ 137 ถนนแจ้งสนิท ตำบลเหนือเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด 45000 หมายเลขโทรศัพท์ 0-4352-5056 และโทรสาร 0-4352-5057 ซึ่งปัจจุบันสำนักงานเกษตรและสหกรณ์ได้ย้ายที่ตั้งคือ ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด (หลังเดิม) ชั้น 2 ถนนเทวาภิบาล ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด 45000 หมายเลขโทรศัพท์ 0-4352-7862-4 โทรสาร 0-4352-7863 วัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง 2.1 เพื่อเป็นการกระจายอำนาจการบริหารจากส่วนกลางไปสู่ส่วนภูมิภาค โดยเป็นตัวแทนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระดับจังหวัด 2.2 เพื่อปรับระบบการบริหารการพัฒนาการเกษตรให้มีเอกภาพ และมีประสิทธิภาพโดยการให้ความสำคัญต่อการผลิตของเกษตรกร ที่สอดคล้องกับทรัพยากรและความจำเป็นของพื้นที่ 2.3 เพื่อให้เกิดแผนผสมผสานด้านการเกษตรในระดับจังหวัดที่มีหน่วยประสานแผนที่ถาวรและชัดเจนและเพื่อให้มีผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับผิดชอบงานแผนในระดับจังหวัดโดยตรง 2.4 เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลและเผยแพร่ข้อมูลระดับจังหวัด การบริหารงานของสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ในฐานะผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำจังหวัด ตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 กำหนดให้ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นกรรมการจังหวัด (กจ.) และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาชนบทและกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค พ.ศ. 2535 จะทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการพัฒนาจังหวัด (กพจ.) รวมทั้งเป็นศูนย์บริหารงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัด