ประวัติความเป็นมา


       เทศบาลตำบลโพนพิสัย เดิมมีชื่อว่า “สุขาภิบาลจุมพล” ได้รับการจัดตั้งตามประกาศกระทรวงมหาดไทย

ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2499
       ต่อมาได้รับการยกฐานะจากสุขาภิบาลเป็น “เทศบาลตำบลจุมพล” ตามพระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงฐานะของสุขาภิบาล พ.ศ. 2542 เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 
       และได้เปลี่ยนชื่อจาก “เทศบาลตำบลจุมพล” เป็น “เทศบาลตำบลโพนพิสัย”  เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2549
 

          พระยาสุนธรธรรมธาดา   (คำสิงห์  สิงห์ศิริ)  เป็นบุตรของ  พระฤกษ์มนตรีและนางทองสี  เกิดที่บ้านจอมนาง   อำเภอโพนพิสั จังหวัดหนองคาย เมื่อวันอังคาร ปีมะโรง เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2375 เมื่อ พ.ศ.  2380  เริ่มเรียนหนังสือไทยจากท่านครูหลักคำ จนเมื่ออายุครบบวชจึงได่อุปสมบทเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา 2 พรรษา ที่วัดจุมพล อำเภอโพนพิสัย จากนั้นได้เข้ารับราชการเป็นเสมียนนายกอง บัญชีอยู่กับเจ้าเมืองโพนพิสัย มีหน้าที่สำรวจไพร่พลและเตรียมเสบียงอาหารสมทบกองทัพหลวง ซึ่งไปจากพระนคร

     พ.ศ. 2397  ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนายกองบัญชี

     พ.ศ. 2398 ได้รับพระราชทานตราตั้งเป็นท้าวพรหมสาร

     พ.ศ. 2401 ได้รับพระราชทานตราตั้งเป็นเจ้าเมืองประชุมพนาลัย (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองบริคัณฑ์นิคม อยู่ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง คือแขวงบริคัณฑ์ ในประเทศลาวปัจจุบัน) ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นที่ พระศรีสุรศักดิ์สุนทร

     พ.ศ. 2426 มีพวกฮ่อเข้ามาปล้มชายพระราชอาณาเขตทางแคว้วสิบสองจุไทย จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระยาราชวรานุกูล พระยาสุโขทัย เป็นแม่ทัพเกณฑ์ไพร่พลทางหัวเมืองตะวันออกเฉียงเหนือไปปราบฮ่อ พระศรีสุรศักดิ์สุนทร (คำสิงห์ สิงห์ศิริ) ได้ร่วมทัพหลวงเป็นแม่กองออกสู้รบปราบฮ่อ ถ้ามีข้าศึกมาย่ำยีอาณาเขตทางด้านนี้ ก็ได้รับมอบหมายให้เป็นแม่กองต่อต้านศึกด้วยทุกครั้ง จนเป็นที่พึงพอใจของทางราชการทุกครั้ง

     พ.ศ. 2434 ได้ติดตามพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมข้าหลวงต่างพระอง๕มณฑลฝ่ายเหนือเข้าไปกรุงเทพฯ ถวายตัวเป็นมหาดเล็กหลวงในรัชกาลที่ 5 สังกัดกรมมหาดเล็กเวรสิทธิ์

     พ.ศ.2436 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นแม่กองไปขัดตาทัพต่อสู้ฝรั่งเศสที่แก่งเกซึ่งเข้ามายึดดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงจนเหตุการณ์ด้านนี้สงบลง และดินแดนทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงตกไปเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส รวมทั้งเมืองบริคัณฑ์นิคมด้วย  จึงโปรดเกล้าฯให้พระศรีสุรศักดิ์สุนทร (คำสิงห์  สิงห์ศิริ) อพยพครอบครัวผู้คนมาตั้งบ้านอยู่บ้านหนองแก้ว ริมฝั่งแม่น้ำโขงด้านตะวันตก แขวงเมืองโพนพิสัย และโปรดเกล้าให้ยกบ้านหนองแก้วขึ้นเป็น  "เมืองรัตนวาปี" เมื่อ พ.ศ.2437 ส่วนพระยาศรีสุรศักดิ์สุนทร (คำสิงห์  สิงห์ศิริ) พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็น พระรัตนเขตรักษา เจ้าเมืองรัตวาปี คนแรก

     พ.ศ.2436 ได้โปรดเกล้าฯให้ตราพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ ร.ศ.116

     พ.ศ. 2440 พระราชทานตราตั้งให้ พระรัตนเขตรักษา (คำสิงห์  สิงห์ศิริ) เป็นพระยาโพนพิสัยสรเดช เจ้าเมืองโพนพิสัย ตามนามเมือง และยุบเมืองรัตนวาปีเป็นอำเภอสังกัดเมืองอุดรธานี ต่อมาทางราชการก็ยุบเมืองโพนพิสัยเป็นอำเภอ ขึ้นกับเมืองหนองคาย

     พ.ศ.2544 เป็นแม่กองสมทบกองทัพหลวงไประงับเหตุเรื่องผีบาปผีบุญที่เมืองอุดรธานี เมืองสกลนคร และมืองนครพนม จนเหตุการณ์สงบเรียบร้อย นอกจากนี้ยังเป็นแม่กองไรงับเหตุที่พวกเงี้ยวก่อการจราจลทางเมืองบ่อแต และเมืองแทนท้าว ในท้องที่อำเภอด่านซ้าย อำเภอท่าลี่ และอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ได้รับตราเป็นบำเหน็จ

     ส่วนการปฏิรูปการปกครองตามระบบเทศาภิบาลนั้นก็ดำเนินต่อไป จนเมื่อยุบเมืองโพนพิสัยเป็นอำเภอแล้วพระยาโพนพิสัยสรเดช (คำสิงห์  สิงห์ศิริ) ดำรงตำแหน่งเป็นนายอำเภอโพนพิสัย ตั้งแต่ปี 2450 จนกระทั่ง ปี 2459 จึงออกจากราชการเพื่อรับพระราชทานเบี้ยหวัดปีละ 500 บาท เนื่องจากพระยาโพนพิสัยสรเดช  (คำสิงห์  สิงห์ศิริ)  มีความดีความชอบต่อแผ่นดินมาแต่อดีต พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 จึงทรงะรักระณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระยาสุนทรธรรมธาดา เป็นต้นตระกูล "สิงห์ศิริ" เป็นเกียรติยศต่อวงศ์ตระกูลสืบไป

     พระยาสุนทรธรรมธาดา (คำสิงห์  สิงห์ศิริ)  ล้มป่วยด้วยโรคชราถึงแก่อนิจกรรม เวลา 09.10 น. ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2497
     ชาวโพนพิสัยเห็นท่านได้ประกอบคุณงามความดีให้แก่ชาวอำเภอโพนพิสัยไม่ว่าจะเป็นทางด้านการรบ ปราบปรามจีนฮ่อออกจากแคว้นสิบสองจุไทยและเมืองพวน ท่านเป็นผู้กล้าหาญในการรบเป็นกำลังสำคัญแก่บ้านเมือง ท่านเป็นผู้มีใจโอบอ้อมอารีย์แก่ข้าราชการและอาณาประชาราษฎร์ในแขวงเมืองและอำเภอ นอกเหนือจากนั้นยังเป็นผู้เชื่อมั่นในพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดี ชาวอำเภอโพนพิสัยจะทำการประกอบพิธีบวงสรวงอนุสาวรีย์พระยาสุนทรธรรมธาดา ทุกวันที่ 22 เดือนพฤษภาคมทุกปี

     

 

 

วิสัยทัศน์ 

โพนพิสัยพัฒนา  การศึกษาก้าวไกล  
ทันสมัยเทคโนโลยี  มีดีเศรษฐกิจ
ทรัพย์สินและชีวิตปลอดภัย  ไร้ยาเสพติด
มีคุณภาพชีวิตที่ดี  สืบสานประเพณีลุ่มน้ำโขง
เชื่อมโยงสายสัมพันธ์ ไทย-ลาว

พันธกิจ

พัฒนาเพื่อยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองโพนพิสัย
- พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
  - พัฒนาคุณภาพชีวิตความปลอดภัยและทรัพย์สิน
 - ส่งเสริมการค้า พัฒนาเศรษฐกิจ
   - ส่งเสริมการศึกษา ส่งเสริมการกีฬา
         - พัฒนาบุคลากรเพื่อบริการสาธารณะให้มีประสิทธิภาพ