ประวัติ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว
ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นทุกปีสร้างรายได้ให้ประเทศเป็นจำนวนมาก
ในขณะเดียวกันอาชญากรรมและการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวก็ เพิ่มขึ้นมาเป็นเงาตามตัว
รัฐบาลจึงได้จัดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนอกเหนือไปจากหน่วยงานตำรวจในพื้นที่
โดยแรกเริ่มในปี พ.ศ.๒๕๑๙ ธุรกิจเอกชนร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ท.
ในขณะนั้น ได้ประสานความร่วมมือให้กรมตำรวจพิจารณาดำเนินการให้ความคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวเป็นกรณีพิเศษ กรมตำรวจจึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและให้ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว
(ศอ.นท.) ขึ้นในสังกัดกองปราบปราม มีกำลังพลประมาณ ๖๐ นาย ทำหน้าที่รับแจ้งเรื่องร้องเรียนและตรวจตราให้ความคุ้มครอง
รักษาความปลอดภัยในย่านชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวในเขตกรุงเทพมหานคร
ซึ่งในการปฏิบัติงานครั้งนั้นธุรกิจเอกชนได้ร่วมกันบริจาคยานพาหนะและอุปกรณ์การสื่อสารให้ไว้ในการปฏิบัติภารกิจ
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเองกรมตำรวจได้ดำเนินการขอจัดตั้งกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวขึ้น
เพื่อเป็นหน่วยงานถาวร
ที่รับผิดชอบในด้านการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว
โดยคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบและอนุมัติในหลักการเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๙
แต่ติดขัดเรื่องงบประมาณ
ต่อมารัฐบาลได้ประกาศให้ปี พ.ศ.๒๕๒๓ เป็นปีท่องเที่ยวและให้กรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย
รับผิดชอบภารกิจอำนวยความสะดวกและให้ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว
โดยจัดให้ดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง กรมตำรวจและการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทยจึงได้ร่วมกันปรับปรุง
ศอ.นท. เป็น ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว
(ศช.นท.) ขึ้นเพื่อนบริการนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับคำร้องทุกข์
กรณีประสบปัญหาอาชญากรรม การเอารักเอาเปรียบ
โดยขยายความรับผิดชอบไปยังส่วนภูมิภาคที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในความนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
อันได้แก่ เมืองเชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต และหาดใหญ่
ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ รัฐบาลได้ตระหนักในความสำคัญของหน่วยงานเฉพาะกิจดังกล่าว จึงได้จัดตั้งหน่วยงานตำรวจท่องเที่ยวถาวรขึ้น
คือ กองกำกับการ ๘ สังกัดกองปราบปราม ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจ
กระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ ๑๐ ) พ.ศ.๒๕๒๕
อย่างไรก็ตามเนื่องจากอุสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น
และจำนวนแหล่งท่องเที่ยวที่กระจายไปทั่วประเทศ ทำให้
โครงสร้างตำรวจท่องเที่ยวในระดับกองกำกับการ
ไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว
รัฐบาลจึงได้ยกฐานะตำรวจท่องเที่ยวขึ้นให้เป็น กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว
สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจ
กระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ ๑๗) วันที่ 26 พฤศจิกายน
พ.ศ.๒๕๓๔
หลังจากที่มีการขยายขึ้นเป็นกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว
เมื่อได้มีการปฏิบัติหน้าที่ก็ได้ประสบปัญหาเกี่ยวกับการขาดแคลนด้านกำลังพลที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่
ดูแลอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวได้ครอบคลุมพื้นที่อย่างทั่วถึง
กรมตำรวจซึ่งต่อมามีพระราชกฤษฎีกา พ.ศ. ๒๕๔๑
โอนจัดตั้งขึ้นเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๑
ต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๒ และกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พ.ศ.๒๕๕๒ ซึ่งมีผลให้โครงสร้างการแบ่งส่วนราชการภายในกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว แบ่งออกเป็น ๑ ฝ่ายอำนวยการ และ ๖ กองกำกับการ ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ว่าด้วยกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๒
ซึ่งมีผลบังคับใช้ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นต้นไป