หลักเกณฑ์การเลื่อนขั้นเงินเดือนพนักงานเทศบาล

 การเพิ่มค่าจ้าลูกจ้างประจำและการเลื่อนขั้น

ค่าตอบแทนพนักงานจ้าง

 

 

 

 

เทศบาลตำบลเกษตรวิสัย   จังหวัดร้อยเอ็ด

 

 

 

 

 

           งานการเจ้าหน้าที่

สำนักปลัดเทศบาล

หลักเกณฑการเลื่อนขั้นเงินเดือนพนักงานเทศบาล และลูกจ้างประจำ

--------------------------

                   ความหมาย  การเลื่อนขั้นเงินเดือน หมายถึงการสั่งให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือนในขั้นที่สูงขึ้น เพื่อตอบแทนความดีความชอบที่ผู้นั้นได้ปฏิบัติในครึ่งปีที่แล้วมา

กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

๑.      ประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดร้อยเอ็ด  เรื่อง  หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการ

บริหารงานบุคคลของเทศบาล  พ.ศ.๒๕๔๕ ลงวันที่  ๑๑  พฤศจิกายน  ๒๕๔๕  และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ ๔๓) พ.ศ.๒๕๕๘  ลงวันที่  ๑๙  มกราคม  ๒๕๕๙

๒.      ประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดร้อยเอ็ด  เรื่อง  หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการ

กำหนดโควตาและวงเงินเลื่อนขั้นเงินเดือน  ค่าจ้าง  และค่าตอบแทนพิเศษสำหรับพนักงานเทศบาล และลูกจ้างประจำของเทศบาล  พ.ศ.๒๕๕๘  ลงวันที่  ๑๙  มกราคม  ๒๕๕๙

๓.      กฎ ก.. ว่าด้วยการเลื่อนขั้นเงินเดือน พ..๒๕๔๔

สาระสำคัญของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

๑.     ประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดร้อยเอ็ด  เรื่อง  หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับ

การบริหารงานบุคคลของเทศบาล  พ.ศ.๒๕๔๕ ลงวันที่  ๑๑  พฤศจิกายน  ๒๕๔๕  และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ ๔๓) พ.ศ.๒๕๕๘  ลงวันที่  ๑๙  มกราคม  ๒๕๕๙ หมวด  ๑๑

ข้อ ๒๒๓ พนักงานเทศบาลผู้ใดปฏิบัติตนเหมาะสมกับการเป็นข้าราชการและปฏิบัติราชการ

มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลในระดับอันเป็นที่พอใจของทางราชการ ถือว่าผู้นั้นมีความชอบ จะได้รับบำเหน็จความชอบซึ่งอาจเป็นคำ ชมเชย เครื่องเชิดชูเกียรติ รางวัล หรือการได้เลื่อนขั้นเงินเดือนตามควรแก่กรณี

                        ข้อ  ๒๒๔  การเลื่อนขั้นเงินเดือนพนักงานเทศบาล ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโดยคำนึงถึงคุณภาพและปริมาณงาน ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานที่ได้ปฏิบัติมา  ความสามารถและความอุตสาหะในการปฏิบัติงาน  ความมีคุณธรรมและจริยธรรม  ตลอดจนการรักษาวินัยและการปฏิบัติตนเหมาะสมกับการเป็นพนักงานเทศบาล

     ข้อ  ๒๒๕  การเลื่อนขั้นเงินเดือนให้พนักงานเทศบาล  ที่อยู่ในหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดใน

หมวดนี้ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาที่จะพิจารณา

                                ในกรณีที่ไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนให้พนักงานเทศบาลผู้ใด ให้ผู้บังคับบัญชาแจ้งให้ผู้นั้นทราบพร้อมทั้งเหตุผลที่ไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนให้

                        ข้อ  ๒๒๖  ในประกาศกำหนดนี้

                               ปี  หมายความว่า  ปีงบประมาณ

                               “ ครึ่งปีแรก ” หมายความว่า ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม

  “ ครึ่งปีหลัง ” หมายความว่า ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน

  “ ครึ่งปีที่แล้วมา ” หมายความว่า ระยะเวลาครึ่งปีแรกหรือครึ่งปีหลังที่ผ่านมาแล้วแต่กรณี

                          ข้อ  ๒๒๗  ให้ผู้บังคับบัญชาประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลปีละสองครั้งตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้สำหรับการประเมินผลการปฏิบัติงาน

-๒-

       ข้อ  ๒๒๘  การเลื่อนขั้นเงินเดือนพนักงานเทศบาล ให้เลื่อนปีละสองครั้ง ดังนี้

             (๑)  ครั้งที่  ๑  เป็นการเลื่อนขั้นเงินเดือนสำหรับการปฏิบัติราชการในครึ่งปีแรก โดยให้

เลื่อนวันที่ ๑ เมษายนของปีที่ได้เลื่อน

             (๒)  ครั้งที่  ๒  เป็นการเลื่อนขั้นเงินเดือนสำหรับการปฏิบัติราชการในครึ่งปีหลัง โดยให้

เลื่อนวันที่ ๑ ตุลาคมของปีถัดไป 

       ข้อ  ๒๒๙  การเลื่อนขั้นเงินเดือนพนักงานเทศบาล ให้เลื่อนได้ไม่เกินขั้นสูงของอันดับ

เงินเดือนสำหรับตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งนั้น

                          ข้อ  ๒๓๐  พนักงานเทศบาลซึ่งจะได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนครึ่งขั้น

ในแต่ละครั้งต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(๑)    ในครึ่งปีที่แล้วมาได้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ของตนด้วยความสามารถ และด้วย

ความอุตสาหะจนเกิดผลดีหรือความก้าวหน้าแก่ราชการ ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาประเมินตามข้อ ๒๒๗ แล้วเห็นว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สมควรจะได้เลื่อนขั้นเงินเดือนครึ่งขั้น

(๒)    ในครึ่งปีที่แล้วมาต้องไม่ถูกสั่งลงโทษทางวินัยที่หนักกว่าโทษภาคทัณฑ์ หรือไม่ถูกศาล

พิพากษาในคดีอาญาให้ลงโทษในความผิดที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือความผิดที่ทำ ให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน ซึ่งมิใช่ความผิดที่ได้กระทำ โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

(๓)    ในครึ่งปีที่แล้วมาต้องไม่ถูกสั่งพักราชการเกินกว่าสองเดือน

(๔)    ในครึ่งปีที่แล้วมาต้องไม่ขาดราชการโดยไม่มีเหตุผลอันควร

(๕)    ในครึ่งปีที่แล้วมาได้รับบรรจุเข้ารับราชการมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสี่เดือนหรือได้

ปฏิบัติราชการมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสี่เดือนก่อนถึงแก่ความตาย

(๖)    ในครึ่งปีที่แล้วมาสำหรับผู้ได้รับอนุญาตให้ไปศึกษา  ฝึกอบรม ดูงานหรือปฏิบัติ  การวิจัย

ในประเทศหรือต่างประเทศ ต้องมีเวลาปฏิบัติราชการไม่น้อยกว่าสี่เดือน

(๗)    ในครึ่งปีที่แล้วมาสำหรับผู้ได้รับอนุญาตให้ลาติดตามคู่สมรสไปปฏิบัติราชการหรือ

ปฏิบัติงานในต่างประเทศ  ต้องมีเวลาปฏิบัติราชการไม่น้อยกว่าสี่เดือน

(๘)    ในครึ่งปีที่แล้สมาต้องไม่ลา หรือมาทำงานสายเกินจำนวนครั้งที่นายกเทศมนตรีกำหนด

เป็นหนังสือไว้ก่อนแล้ว โดยคำนึงถึงลักษณะงานและสภาพท้องที่อันเป็นที่ตั้งของแต่ละส่วนราชการหรือหน่วยงาน

  (๙) ในครึ่งปีที่แล้วมาต้องมีเวลาปฏิบัติราชการหกเดือน โดยมีวันลาไม่เกินยี่สิบสามวัน

แต่ไม่รวมถึงวันลาตาม (๖) หรือ (๗)  และวันลาดังต่อไปนี้

(ก)    ลาอุปสมบท หรือลาไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย

เฉพาะวันลาที่มีสิทธิได้รับเงินเดือนระหว่างลาตามกฎหมายว่าด้วยการจ่ายเงินเดือน

() ลาคลอดบุตรไม่เกินเก้าสิบวัน

() ลาป่วยซึ่งจำเป็นต้องรักษาตัวเป็นเวลานานไม่ว่าคราวเดียวหรือหลายคราว

รวมกันไม่เกินหกสิบวันทำการ

 

-๓-

() ลาป่วยเพราะประสบอันตรายในขณะปฏิบัติราชการตามหน้าที่หรือในขณะ

เดินทางไปหรือกลับจากปฏิบัติราชการตามหน้าที่

 () ลาพักผ่อน

() ลาเข้ารับการตรวจเลือกหรือเข้ารับการเตรียมพล

() ลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศ

(ซ) ลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตร  เฉพาะวันลาที่มีสิทธิได้รับเงินเดือนระหว่างลา

ตามกฎหมายว่าด้วยการจ่ายเดือน

                                      (ฌ) ลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ

การนับจำนวนวันลาไม่เกินยี่สิบสามวันสำหรับวันลากิจส่วนตัวและวันลาป่วย ให้นับ

เฉพาะวันทำการ

                         ข้อ  ๒๓๑  พนักงานเทศบาลซึ่งจะได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนหนึ่งขั้นในแต่ละครั้ง

ต้องเป็นผู้อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนครึ่งขั้นตามข้อ  ๒๓๐  และอยู่ในหลักเกณฑ์ประการใดประการหนึ่งหรือหลายประการดังต่อไปนี้ด้วย

(๑)    ปฏิบัติงานตามหน้าที่และมีผลการประเมินการปฏิบัติงานในระดับดีเด่น และมี

ประสิทธิภาพและประสิทธิผล อันก่อให้เกิดประโยชน์และผลดียิ่งต่อทางราชการและสังคมจนถือเป็นตัวอย่างที่ดีได้

(๒)    ปฏิบัติงานโดยมีความคิดริเริ่มในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือได้ค้นคว้าหรือประดิษฐ์สิ่งใดสิ่งหนึ่ง

ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทางราชการเป็นพิเศษ และทางราชการได้ดำเนินการตามความคิดริเริ่มหรือได้รับรองให้ใช้การค้นคว้าหรือสิ่งประดิษฐ์นั้น

(๓)    ปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่มีสถานการณ์ตรากตรำ เสี่ยงอันตรายมาก หรือมีการต่อสู้ที่เสี่ยงต่อ

ความปลอดภัยของชีวิตเป็นกรณีพิเศษ

(๔)    ปฏิบัติงานที่มีภาระหน้าที่หนักเกินกว่าระดับตำแหน่งจนเกิดประโยชน์ต่อทางราชการเป็น

พิเศษ และปฏิบัติงานในตำแหน่งหน้าที่ของตนเป็นผลดีด้วย

(๕)    ปฏิบัติงานตามตำแหน่งหน้าที่ด้วยความตรากตรำ เหน็ดเหนื่อย ยากลำบากเป็นพิเศษ

และงานนั้นได้ผลดียิ่งเป็นประโยชน์ต่อทางราชการและสังคม

(๖)    ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายให้กระทำ กิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งจนสำเร็จเป็นผลดียิ่ง

แก่ประเทศชาติ

                          ข้อ  ๒๓๒  การพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนพนักงานเทศบาลตามข้อ  ๒๓๐ และข้อ  ๒๓๑

ให้ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นนำผลการประเมินผลการปฏิบัติงานที่ได้ดำเนินการตามข้อ  ๒๒๗  มาเป็นหลักในการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง โดยพิจารณาประกอบกับข้อมูลการลา พฤติกรรมการมาทำงาน การรักษาวินัย

การปฏิบัติตนเหมาะสมกับการเป็นข้าราชการ และข้อควรพิจารณาอื่น ๆ ของผู้นั้น แล้วรายงานผลการพิจารณานั้น พร้อมด้วยข้อมูลดังกล่าวต่อผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือขึ้นไปตามลำดับจนถึงนายกเทศมนตรี

ในการพิจารณารายงานตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือขึ้นไปแต่ละระดับที่

ได้รับรายงานเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของนายกเทศมนตรีด้วย

-๔-

                          ข้อ  ๒๓๓  การพิจารณาผลการปฏิบัติงานและผลสัมฤทธิ์ของงาน ให้นับช่วงเวลาการปฏิบัติราชการและการปฏิบัติงานตามข้อ  ๒๓๐ (๙) ในครึ่งปีที่แล้วมาเป็นเกณฑ์ เว้นแต่ ผู้อยู่ในหลักเกณฑ์ตามข้อ  ๒๓๐ (๕) หรือ (๖) หรือ (๗) ให้นับช่วงเวลาปฏิบัติราชการไม่น้อยกว่าสี่เดือนเป็นเกณฑ์พิจารณา

ในกรณีที่พนักงานเทศบาลผู้ใด โอน เลื่อนตำแหน่ง ย้าย สับเปลี่ยนหน้าที่ไปช่วยราชการใน

หน่วยงานราชการอื่น ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานนอกเหนือหน้าที่หรืองานพิเศษอื่นใด หรือลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศตามข้อ  ๒๓๐ (๙) (ช) ในครึ่งปีที่แล้วมา ให้นำผลการปฏิบัติราชการและการปฏิบัติงานของผู้นั้นทุกตำแหน่งและทุกแห่งมาประกอบการพิจารณาด้วย

                          ข้อ  ๒๓๔  ในการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนแต่ละครั้ง ให้นายกเทศมนตรีพิจารณารายงานผลจากผู้บังคับบัญชาตามข้อ  ๒๓๒  ประกอบข้อ  ๒๓๖  ถ้าเห็นว่าพนักงานเทศบาลผู้ใด อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนขึ้นเงินเดือนครึ่งขั้นตามข้อ  ๒๓๐ และปฏิบัติตนเหมาะสมกับการเป็นข้าราชการ ให้เลื่อนขั้นเงินเดือนให้แก่ผู้นั้นครึ่งขั้น  ถ้าเห็นว่าพนักงานเทศบาลผู้นั้นอยู่ในหลักเกณฑ์ตามข้อ  ๒๓๑ ให้เลื่อนขั้นเงินเดือนให้แก่ผู้นั้นหนึ่งขั้น

                             ในกรณีที่พนักงานเทศบาลผู้ใดมีผลการปฏิบัติงานและอยู่ในหลักเกณฑ์ที่ควรจะได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนครึ่งปีแรกหนึ่งขั้น  แต่ไม่อาจสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนหนึ่งขั้นให้ได้เพราะมีข้อจำกัดเกี่ยวกับโควตาที่จะใช้เลื่อนขั้นเงินเดือนของส่วนราชการนั้น ถ้าในการเลื่อนขั้นเงินเดือนครึ่งปีหลัง พนักงานเทศบาลผู้นั้นมีผลการปฏิบัติงานอยู่ในเกณฑ์ได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนหนึ่งขั้นอีก และไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนเงินที่จะใช้เลื่อนขั้นเงินเดือนในคราวนั้น นายกเทศมนตรีอาจมีคำสั่งให้เลื่อนขั้นเงินเดือนรวมทั้งปีของพนักงานเทศบาลผู้นั้นเป็นจำนวนสองขั้นได้ ทั้งนี้ต้องอยู่ในโควตาร้อยละ  ๑๕  ของจำนวนพนักงานเทศบาลที่ครองตำแหน่งอยู่  ณ  วันที่  ๑  มีนาคม

                             ข้อ  ๒๓๕  การพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนครึ่งปีให้แก่พนักงานเทศบาล ซึ่งในครึ่งปีที่แล้วมาได้รับอนุญาตให้ลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศตามข้อ  ๒๓๐ (๙) (ช)  หรือลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพตามข้อ  ๒๓๐ (๙) (ฌ)  ให้นายกเทศมนตรีสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนได้ครั้งละไม่เกินครึ่งขั้น ทั้งนี้ ให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงาน

                             ข้อ  ๒๓๖  นายกเทศมนตรีจะนำเอาเหตุที่พนักงานเทศบาลผู้ใด  ถูกแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน  ในกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงหรือถูกฟ้องคดีอาญา  มาเป็นเหตุในการไม่พิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนให้พนักงานเทศบาลผู้นั้นไม่ได้

                             ข้อ  ๒๓๗  ในกรณีที่พนักงานเทศบาลผู้ใดถูกสั่งลงโทษทางวินัยที่หนักกว่าโทษภาคทัณฑ์และถูกศาลพิพากษาให้ลงโทษในความผิดที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือความผิดที่ทำให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน  ซึ่งมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ  และเป็นการถูกลงโทษจากการกระทำความผิดเดียวกัน  ถ้าถูกสั่งไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนมาแล้ว  เพราะเหตุที่ถูกลงโทษทางวินัยหรือถูกศาลพิพากษาในคดีอาญาให้ลงโทษ  จะสั่งไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพราะเหตุจากการกระทำความผิดเดียวกันนั้นไม่ได้

                             ข้อ  ๒๓๙  ในครึ่งปีที่แล้วมา  ถ้าพนักงานเทศบาลผู้ใดอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้เลื่อนขั้นเงินเดือน  แต่ผู้นั้นจะต้องพ้นจากราชการไปเพราะเหตุเกษียณอายุตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น ให้นายกเทศมนตรีสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนให้ผู้นั้นเพื่อประโยชน์ในการคำนวณบำเหน็จบำนาญ  ในวันที่  ๓๐ กันยายนของปีที่จะพ้นจากราชการ

-๕-

                             ข้อ  ๒๔๑  พนักงานเทศบาลผู้ใดไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนครึ่งขั้นตามข้อ  ๒๓๐  เพราะเหตุเกี่ยวกับระยะเวลาการปฏิบัติราชการ การลา หรือการมาทำงานสายตามที่กำหนดหรือเหตุจำเป็นอื่นนอกจากกรณีดังกล่าว แต่นายกเทศมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุผลพิเศษที่ต้องเลื่อนขั้นเงินเดือนให้พนักงานเทศบาลผู้นั้น  ให้นายเทศมนตรีนำเสนอ  ก.ท.จ.พร้อมด้วยเหตุผล เพื่อพิจารณาเป็นการเฉพาะราย  ถ้า ก.ท.จ.เห็นชอบด้วย  จึงจะสั่งเลื่อนขั้นเดือนได้

ข้อ  ๒๔๒ ฯลฯ  การเลื่อนขั้นเงินเดือนพนักงานเทศบาล  ให้นายกเทศมนตรีเป็นผู้มีอำนาจ

สั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนพนักงานเทศบาลทุกตำแหน่ง  ฯลฯ

ข้อ  ๔๐๘  การเพิ่มค่าจ้างประจำ  ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการเลื่อนขั้น

เงินเดือนสำหรับพนักงานเทศบาล

๒.   ประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดร้อยเอ็ด  เรื่อง  หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับ

การกำหนดโควตาและวงเงินเลื่อนขั้นเงินเดือน  ค่าจ้าง  และค่าตอบแทนพิเศษสำหรับพนักงานเทศบาล และลูกจ้างประจำของเทศบาล  พ.ศ.๒๕๕๘  ลงวันที่  ๑๙  มกราคม  ๒๕๕๙

                   ข้อ  ๒  ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่  ๑  มกราคม  ๒๕๕๙  เป็นต้นไป

                   ข้อ  ๓  การกำหนดโควตาและวงเงินเลื่อนขั้นเงินเดือน  ค่าจ้าง และค่าตอบแทนพิเศษสำหรับพนักงานเทศบาลและลูกจ้างประจำของเทศบาล  ให้ถือปฏิบัติตามนัยคณะรัฐมนตรี  เมื่อวันที่  ๓  เมษายน  ๒๕๔๔  และระเบียบของกระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้องกับมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวโดยอนุโลม

                   ข้อ  ๔  การกำหนดโควตาและวงเงินเลื่อนขั้นเงินเดือน  และค่าตอบแทนพิเศษสำหรับพนักงานเทศบาลและลูกจ้างประจำของเทศบาลตามข้อ  ๓  หมายความ ดังนี้

                             “โควตา” หมายความว่า  ร้อยละ  ๑๕  ของจำนวนข้าราชการและลูกจ้างประจำที่ครองตำแหน่งอยู่  ณ  วันที่  ๑  มีนาคม  หากคำนวณแล้วมีเศษถึงครึ่งให้ปัดเป็นจำนวนเต็ม  ถ้าไม่ถึงครึ่งให้ปัดทิ้ง

                             “วงเงินเลื่อนขั้นเงินเดือน” หมายความว่า  จำนวนเงินร้อยละ  ๖  ของอัตราเงินเดือนข้าราชการหรือลูกจ้างประจำที่ครองตำแหน่งอยู่  ณ  วันที่  ๑  กันยายน

                   ข้อ  ๕  ให้เทศบาลพิจารณาจัดสรรโควตาและวงเงินเลื่อนขั้นเงินเดือน  โดยแบ่งกลุ่มพนักงานเทศบาลหรือลูกจ้างประจำ  ดังนี้

                             ๕.๑  พนักงานเทศบาลสามัญและบุคลากรทางการศึกษา  ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ แยกออกเป็น  ๒  กลุ่ม  ดังนี้

                             (๑)  - กลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไป  (ระดับปฏิบัติงาน ,ระดับชำนาญงานและระดับอาวุโส)

                                  - กลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ (ระดับปฏิบัติการ ,ระดับชำนาญการและระดับชำนาญการพิเศษ)

                                  - กลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการท้องถิ่น (ระดับต้นและระดับกลาง)

                                  - กลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารท้องถิ่น  (ระดับต้นและระดับกลาง)

 

-๖-

 

                             (๒)  - กลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ (ระดับเชี่ยวชาญ)

                                  - กลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการท้องถิ่น (ระดับสูง)

                                  - กลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งบริหารท้องถิ่น (ระดับสูง)

                             ๕.๓   ลูกจ้างประจำของเทศบาลทุกตำแหน่งให้จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน

                   ข้อ  ๗  ให้ใช้หลักเกณฑ์การกำหนดโควตาและวงเงินเลื่อนขั้นเงินเดือน  ค่าจ้าง และค่าตอบแทนพิเศษสำหรับพนักงานเทศบาล และลูกจ้างประจำของเทศบาลตามประกาศนี้  ตั้งแต่การเลื่อนขั้นเงินเดือน ประจำปีงบประมาณ  พ.ศ.๒๕๕๙  ครั้งที่  ๑  (๑  เมษายน  ๒๕๕๙)  เป็นต้นไป

๓.    ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินตอบแทนพิเศษของข้าราชการและ

ลูกจ้างประจำ ผู้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง พ.ศ.  ๒๕๔๔

สืบเนื่องจาก คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่  ๓  เมษายน  ๒๕๔๔  เห็นชอบให้เปลี่ยนการเลื่อนเงินเดือน

ข้าราชการปีละ  ๒  ครั้ง  ตามผลการประเมินการปฏิบัติงาน ครั้งแรกในวันที่  ๑  เมษายน และครั้งที่สองในวันที่  ๑ ตุลาคม ของทุกปี  โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๔  เป็นต้นไป  และเห็นชอบให้ข้าราชการผู้ได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนครึ่งขั้น  หรือหนึ่งขั้น  แต่ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษในอัตราร้อยละ  ๒ (กรณีครึ่งขั้น) และร้อยละ  ๔  (กรณีหนึ่งขั้น) ของเงินเดือนโดยให้จ่ายเป็นรายเดือน เป็นระยะเวลา  ๖  เดือน นับตั้งแต่

วันที่ระบุในคำสั่งให้เลื่อนเงินเดือนในแต่ละครั้งและให้นำหลักเกณฑ์ดังกล่าวใช้กับลูกจ้างประจำของส่วนราชการด้วย กระทรวงการคลังจึงได้กำหนดระเบียบกระทรวงการคลัง  ว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินตอบแทนพิเศษของข้าราชการและลูกจ้างประจำผู้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง พ.ศ. ๒๕๔๔ เพื่อให้ส่วนราชการถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่  ๑  เมษายน  ๒๕๔๔   เป็นต้นไป  โดยกำหนดเกี่ยวกับการให้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างและการจ่ายเงินดังกล่าวไว้ตามระเบียบ  ดังนี้

ข้อ  ๔  ในระเบียบนี้

“ข้าราชการ” หมายความว่า ข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการประเภทต่าง ๆ

ซึ่งได้รับเงินเดือนตามกฎหมายว่าด้วยเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง

“ลูกจ้างประจำ ” หมายความว่า  ลูกจ้างประจำรายเดือนตามระเบียบว่าด้วยการจ่ายค่าจ้าง

ลูกจ้างของส่วนราชการ

ข้อ  ๕  ข้าราชการและลูกจ้างประจำ ผู้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง  ให้

ได้รับเงินตอบแทนพิเศษครึ่งขั้น หรือหนึ่งขั้น โดยเกณฑ์การพิจารณาของข้าราชการผู้ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับ ให้รวมอยู่ในกลุ่มเดียวกับข้าราชการผู้ได้รับเงินเดือนไม่ถึงขั้นสูงของอันดับ  สำหรับเกณฑ์การพิจารณาของลูกจ้างประจำ ผู้ได้รับค่าจ้างถึงขั้นสูงของตำแหน่ง ให้รวมอยู่ในกลุ่มเดียวกับลูกจ้างประจำ ผู้ได้รับค่าจ้างไม่ถึงขั้นสูงของตำแหน่งและ

พิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการเดียวกับการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการและการเลื่อนขั้นค่าจ้างของลูกจ้างประจำ และให้เบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์และอัตราดังนี้

๕.๑  กรณีได้รับการพิจารณาเงินตอบแทนพิเศษครึ่งขั้น ให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษในอัตรา

ร้อยละ  ๒  ของเงินเดือนหรือค่าจ้างที่ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง

-๗-

 

๕.๒   กรณีได้รับการพิจารณาเงินเดือนตอบแทนพิเศษหนึ่งขั้น  ให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษใน

อัตราร้อยละ  ๔  ของเงินเดือนหรือค่าจ้างที่ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง

๕.๓  การคำนวณเงินตอบแทนพิเศษตามข้อ  ๕.๑  และข้อ  ๕.๒  ถ้ามีเศษของบาท

ให้ปัดทิ้ง

๕.๔  การจ่ายเงินตอบแทนพิเศษให้จ่ายเป็นรายเดือนทุก ๆ  ๖  เดือน นับตั้งแต่วันที่

ระบุในคำ สั่งให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษในแต่ละครั้ง

๕.๕  กรณีไม่ได้รับการพิจารณาให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษ  ให้เบิกจ่ายเงินเดือนในอัตราขั้นสูง

ของอันดับหรือตำแหน่งตามเดิม

ข้อ  ๖ ข้าราชการและลูกจ้างประจำ  ที่มีสิทธิได้รับเงินตอบแทนพิเศษไม่เต็มเดือนให้เบิกจ่ายเงินตอบ

แทนพิเศษตามหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเดือนในเดือนนั้น

ข้อ  ๗  ข้าราชการและลูกจ้างประจำ  ซึ่งได้รับเงินตอบแทนพิเศษตามข้อ  ๕  ต่อมาได้รับคำสั่งให้เลื่อน

อันดับหรือตำแหน่ง ให้ถือปฏิบัติดังนี้

(๑)    กรณีได้รับคำสั่งให้เลื่อนอันดับหรือตำแหน่ง และได้รับคำสั่งให้เลื่อนเงินเดือนหรือเลื่อนขั้น

ค่าจ้างด้วย ให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษถึงวันก่อนวันที่ระบุในคำ สั่งให้เลื่อนเงินเดือนหรือเลื่อนขั้นค่าจ้าง

(๒)    กรณีได้รับคำสั่งให้เลื่อนอันดับหรือตำแหน่ง  โดยไม่ได้รับคำสั่งให้เลื่อนเงินเดือนหรือเลื่อน

ขั้นค่าจ้าง  ให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษตามหลักเกณฑ์ข้อ  ๕.๔

ข้อ  ๘  ให้วางฎีกาเบิกเงินตอบแทนพิเศษจากเงินงบประมาณหมวดค่าตอบแทนใช้สอยและวัสดุ  รหัส

หมวดรายจ่าย  ๓๐๐  รหัสหมวดรายจ่ายย่อย  รายการ “เงินตอบแทนพิเศษของข้าราชการผู้ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับ รหัส   ๓๓๐” รายการ “เงินตอบแทนพิเศษของลูกจ้างประจำ ผู้ได้รับค่าจ้างถึงขั้นสูงของตำแหน่ง รหัส  ๓๔๐” พร้อมทั้งแนบสำเนาคำสั่งให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษเพื่อประกอบการเบิกจ่ายและรับรองในคำสั่งกรณีจำนวนข้าราชการและลูกจ้างประจำ  ผู้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่งที่ได้รับการพิจารณาเงินตอบแทนพิเศษหนึ่งขั้นเมื่อรวมกับข้าราชการและลูกจ้างประจำ ผู้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างไม่ถึงขั้นสูงของอันดับหรือของตำแหน่งต้องไม่เกินร้อยละ  ๑๕  ของจำนวนข้าราชการหรือลูกจ้างประจำ  ณ  วันที่  ๑  มีนาคม แล้วแต่กรณี  โดยให้ส่วนราชการเป็นผู้ควบคุมจำนวนผู้ที่ได้รับการพิจารณาเงินตอบแทนพิเศษหนึ่งขั้นดังกล่าว

ข้อ  ๙  ข้าราชการและลูกจ้างประจำ  ซึ่งจะต้องพ้นจากราชการเพราะเกษียณอายุไม่มีสิทธิได้รับเงิน

ตอบแทนพิเศษตามระเบียบนี้

 

*********************************